แค่เกิดมา “แตกต่าง” ทำไมต้องถูกเกลียด ?
ตีแผ่กำแพงอคติ ที่ทำให้มนุษย์ (ไม่) เท่าเทียมกัน
เชื้อชาติ เพศ สีผิว และศาสนา สัญลักษณ์ของความแตกต่างหลากหลาย กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความเกลียดชัง
ผู้คนจำนวนไม่น้อยถูกตีตราจากสังคมอย่างไร้เหตุผล สายตาแห่งอคติได้นำไปสู่การเลือกปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียม จนเกิดพฤติกรรมดูถูกเหยียดหยาม การกลั่นแกล้งที่รุนแรง และในบางครั้งก็ลุกลามกลายเป็นอาชญากรรมที่สายเกินแก้ไข
ทำไมบางคนต้องดิ้นรนเพื่อให้ถูกมองว่า “มีค่า”
“คุณอาจไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องกระชับกระเป๋าถือให้แน่นขึ้นเมื่อชายผิวดำเดินผ่านไป แต่ ณ ตอนนั้น คุณกำลังเหยียดเชื้อชาติอยู่”
“คุณอาจไม่รู้ว่าทำไม ตอนที่คุณเห็นคนขับรถแย่ ๆ บนถนน และรับรู้ว่าพวกเขาเป็นคนเอเชีย เสียงเล็ก ๆ ในหัวของคุณถึงได้ร้องว่า“อะฮ่า!” แต่ ณ ตอนนั้น คุณกำลังเหยียดเชื้อชาติ”
“คุณอาจไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงได้ตื่นตาตื่นใจที่คนลาตินอเมริกันที่กำลังคุยด้วยถึงได้ออกเสียงชัด แต่ ณ ตอนนั้น คุณก็กำลังเหยียดเชื้อชาติอยู่”
เด็กบางคนต้องถูกล้อ ถูกกลั่นแกล้ง เพียงเพราะเชื้อชาติแตกต่าง หรือแค่พูดสำเนียงไม่เหมือนใคร
คนบางกลุ่มถูกจับจ้อง ถูกระแวง ถูกตั้งข้อหาในใจ ทั้งที่ไม่เคยทำผิดอะไร นอกจากเกิดมามี “สีผิว” ที่สังคมไม่ยอมรับ
บางคนถูกปิดปากก่อนจะได้พูด ถูกตัดสิทธิ์ก่อนจะได้ฝัน ถูกสั่งให้เดินตามและห้ามคิดต่าง ต้องดิ้นรนตลอดชีวิต เพียงเพื่อจะได้ “สิทธิขั้นพื้นฐาน” ที่ควรจะได้มาโดยไม่ต้องร้องขอ
ในโลกที่เต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำ ไม่ใช่ทุกคนจะถูกนับว่าเป็น “มนุษย์” อย่างเท่าเทียมกัน และเห็นได้ชัดว่า…อภิสิทธิ์ของคนกลุ่มหนึ่ง กลายเป็นกำแพงที่คนอีกกลุ่มต้องพยายามปีนข้ามอย่างยากลำบาก
เราเติบโตมาในระบบที่ถูกสอนให้เงียบ สอนให้อดทน ถูกสอนให้ปรับตัวเข้ากับความเหลื่อมล้ำ แทนที่จะตั้งคำถามและหาทางเปลี่ยนแปลงมัน
เพราะการเงียบ = อยู่รอด
การนิ่งเฉย ไม่พูดมาก = ปลอดภัย
การเพิกเฉยต่อความเกลียดชังและความรุนแรง คือการสมรู้ร่วมคิดโดยไม่รู้ตัว
ในขณะที่คนส่วนใหญ่ตระหนักถึงปัญหาความเลื่อมล้ำในสังคม และพยายามผลักดันเพื่อความเท่าเทียมมาตลอดทั้งชีวิต คนบางกลุ่มยังคงวนเวียนอยู่กับการเหยียบย่ำสิทธิเสรีภาพของผู้อื่นไม่จบสิ้น
ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราจะทำลายกำแพงแห่งอคติ และเรียกร้องความเป็นมนุษย์ให้เท่าเทียมกันอย่างแท้จริง ?
ถึงเวลาแล้วหรือยัง… ที่เราจะเลิกแกล้งทำเป็นไม่เห็น หยุดพูดว่า “มันไม่เกี่ยวกับฉัน” กล้าพูดในสิ่งที่คนส่วนใหญ่เงียบ กล้าตั้งคำถามกับสิ่งที่เคยชิน และกล้าเปิดตามอง ในสิ่งที่สังคมพยายามแอบซ่อนไว้ใต้พรม
กระตุ้นต่อมศีลธรรม เข้าใจคตินิยมเชื้อชาติ และมาร่วมหาคำตอบไปด้วยกัน ว่าแท้จริงแล้วอะไรคือบรรทัดฐานที่เราใช้ตัดสินคุณค่าและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ กับหนังสือเล่มนี้
So You Want to Talk About Race (เหยียด)
หนังสือขายดีระดับ The New York Times Bestseller ผลงานจากปลายปากกาของ อิโจวมา โอลูโอ (Ijeoma Oluo) สู่หนังสือฉบับแปลไทยในชื่อว่า “เหยียด” จะมาปลุกกระตุ้นจิตสำนึกของผู้คน ผ่านประเด็นการกดขี่และความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นผ่านเพศ เฉดผิวและเชื้อชาติที่แตกต่างกัน
ผู้อ่านทุกท่านจะได้เห็นการชี้แจงและตั้งคำถามถึงปัญหาเรื้อรังที่กัดเซาะและแฝงตัวอยู่ในแผ่นดินอเมริกามาอย่างยาวนาน โดย “อิโจวมา โอลูโอ” นักเขียนและนักพูดผู้มีชื่อปรากฏอยู่ในการจัดอันดับ 100 ผู้ทรงอิทธิพลชาวแอฟริกันอเมริกัน (ปี 2017) และได้รับรางวัลสตรีนิยมมนุษยนิยม (Humanist Feminist Award) ประจำปี 2017
อีกทั้งงานในหัวข้อเชื้อชาติของเธอยังได้ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์เดอะ การ์เดียน (the Guardian) วอร์ชิงตัน โพสต์ (the Washington Post) นิวยอร์ก แมกาซีน (New York Magazine) เดอะ สเตรนเจอร์ (the Stranger) และผลงานอื่น ๆ อีกมากมาย
หยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา แล้วทำความเข้าใจคตินิยมเชื้อชาติให้มากขึ้น